รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ตอนที่ 2
คุณฐิติพร ประวัติศรีชัย กล่าวแนะนำคู่ชีวิต คุณซันนี่ ณัฐพล มานิกัมปิไล อดีตสมาชิกวงดนตรีวงดังวงหนึ่ง ปัจจุบันเป็นนักดนตรีอิสระ ผู้จัดการคือมายด์เอง และเป็นครูสอนดนตรี มายด์เชื่อว่าทุกๆ คู่ที่เป็นคู่รักคู่ชีวิตกันมีเรื่องการปรับตัวเกิดขึ้น เพราะเรามาจากต่างครอบครัว background พื้นหลังครอบครัวหรือการดูแลของเรากับของคนที่อยู่ข้างตั้งแต่เด็กจนโตไม่มีทางเหมือนกัน กลุ่มเพื่อน กลุ่มสังคมหล่อหลอมเราเป็นตัวตนแบบนี้ เขาจะแบบนั้น แต่พอมาอยู่ด้วยกันปัญหามีแน่นอนเพราะว่า เราต่างคิดว่าวิธีของเราถูก เขาคิดว่าวิธีเขาดีกว่า เราคิดว่าไม่ของเราดีกว่า ทำแบบนี้มันดีมาตลอด เขาบอกว่าเขาทำแบบนี้ดีมาตลอด มายด์เชื่อว่าทุกคู่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง การอยู่ด้วยกันสิ่งที่สำคัญคือจะต้องพยายามเข้าใจอีกฝ่าย เพราะว่าถ้าเราไม่พยายามเข้าใจซึ่งกันและกัน เราจะมองเขาว่าทำไมเธอทำแบบนั้น เธอทำผิด ถ้าเขาไม่พยายามเข้าใจเราเหมือนกันเขาอาจจะมองได้ว่าวิธีของฉันนั้นถูก วิธีเธอผิด ทำไมเธอแบบนี้ ดังนั้นสิ่งสำคัญในการที่คนสองคนอยู่ด้วยกัน พยายามเข้าใจซึ่งกันและกันเพราะเข้าใจกันแล้วจะพยายามปรับตัวเข้าหากัน
มายด์เป็นคนที่พูดอะไรตรงๆ ชอบคือชอบ ไม่ชอบก็ไม่ชอบ แล้วพี่เขาเคยซื้อดอกกุหลาบให้จริงๆ ผู้หญิงหลายๆ คนเขาได้รับดอกไม้จะเป็นโมเม้นที่ว่า อุ๊ยขอบคุณนะดอกไม้สวยจังเลยแล้วก็หอมดอกกุหลาบสักฟอด แต่ประโยคที่มาจากมายด์ คือ ทำไมซื้อกุหลาบมารู้ไหมว่ามันตัดต้นไม้ ถ้าจะซื้อให้ซื้อแบบยกกระถางจะได้เอาไปปลูกต่อได้ หารู้ไม่คำพูดเหล่านั้นมันทำลายความรู้สึกของคนที่ตั้งใจทำอะไรดีๆ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องระวัง ก่อนพูดออกไปจะคิดนิดนึง คำพูดจะทำร้ายความรู้สึกหรือเปล่า ไม่ใช่แค่พี่ซันนี่ กับทุกๆ คนเลย คนที่ไม่เสแสร้งคนที่พูดตรงๆ มันดีแต่บางครั้งเราสามารถพูดตรงด้วยความสุภาพ
คำว่ารักไม่ยอมเปลี่ยนแปลงสำหรับมายด์ เราเป็นตัวของเรา เขาเป็นตัวของเขา แต่เรามีจุดยืนที่เรามีความตัดสินใจว่าจะปรับเปลี่ยนตัวตนของฉัน เธอจะปรับเปลี่ยนตัวตนของเธอเพื่อจะอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข มายด์มองว่าสิ่งนั้นไม่ยอมเปลี่ยนแปลงในที่นี้คือไม่ยอมเปลี่ยนแปลงที่จะเปลี่ยนคนอื่น เธอจะต้องเปลี่ยนแปลงของเธอมาเป็นในแบบที่ฉันอยากได้ ฉันจะต้องบอกให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวตนเพื่อที่จะเป็นแบบที่ฉันชอบ คือมันเปลี่ยนไปแล้ว แต่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงของมายด์คือการที่เราเป็นตัวของเรา เรารักกันในความเป็นตัวของตัวเอง
คุณซันนี่ ณัฐพล มานิกัมปิไล เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อมายด์คือ เรื่องของระยะเวลาที่ใช้ร่วมกัน เป็นบทพิสูจน์ของอะไรหลายๆ อย่าง เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า คนที่อยู่ข้างๆ เวลาเรามองย้อนไปจะเห็นถึงความอดทนของเขา เราจะเห็นความพยายาม ไม่ว่าเขาจะทำเพื่อตัวเขาเอง เพื่อครอบครัว เพื่อเราด้วย มีความพยายามในการที่จะอดทนกับเรามากๆ ทั้งที่เราเป็นคนใจร้อน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะรู้ได้ในเวลาการคบกันเพียงผิวเผิน การใช้ชีวิตคู่มันต้องอยู่กันไปทั้งชีวิตไม่มีทางที่มันจะเพอร์เฟคตั้งแต่วินาทีแรกที่อยู่ด้วยกัน แต่พออยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ นานวัน นานเดือนขึ้น ใช้เวลากันเรื่อยๆ สิ่งนั้นจะทำให้เรารู้เองครับว่าคนที่อยู่ข้างๆ เรา เขาน่ารักขนาดไหน แล้วสิ่งนั้นก็จะเป็นแรงผลักดันที่ขับเคลื่อนชีวิตคู่ไปได้ต่อไปเรื่อยๆ ผมไม่มีโมเมนต์ซึ้งๆ มาเล่าให้ฟัง แต่มันเป็นเรื่องของการที่ต้องใช้เวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกัน
คุณซันนี่พูดถึงรักแท้ในความรู้สึกว่า นึกถึงความรู้สึกของพ่อแม่ที่มีต่อลูก เป็นความรู้สึกของการที่อยากจะให้คนๆ นึงได้รับแต่สิ่งที่ดีไม่ว่าจะเป็นการเอาใจใส่ ดูแลสั่งสอน คอยบอก เตือน นำทางเวลาที่คนๆ หนึ่งอาจจะมีปัญหา หาทางออกไม่เจอ ความรักของพ่อแม่เป็นความรักที่บริสุทธิ์แบบนั้น ชีวิตคู่ว่าด้วยการที่มีชีวิตคู่แล้วพยายามทำให้ชีวิตคู่ดีขึ้น นอกเหนือจากความใคร่ ความรักที่บริสุทธิ์ ทำให้ชีวิตเดินไปได้อย่างดี ผมคิดว่า ความรักแท้ประมาณนี้ การที่อยากอยู่ข้างๆ ได้รับสิ่งดีๆ พร้อมที่จะทำอะไรหลายๆ อย่าง ผมอยากให้เขา
คุณฐิติพร ประวัติศรีชัย ขอเป็นการทิ้งท้ายและส่งต่อคำดีๆ ถึงกันและกันว่า “มายด์อยากให้ทุกคนมีความสุขกับการเป็นตัวของตัวเอง มายด์เชื่อว่าการที่คนจะรักเรา เขาควรจะรักเราในแบบที่เราเป็น ถ้าวันหนึ่งคุณเปลี่ยนแปลงตัวเองคุณจะเหนื่อย พอคุณเหนื่อยแล้วเผยตัวตนของคุณออกมา เขารักคุณในตอนที่คุณไม่เป็นตัวของตัวเองไม่ดีเลย มายด์อยากให้ทุกคนรักตัวเองให้มาก คนอื่นเขาจะรักคุณในแบบที่คุณเป็น และมายด์อยากจะส่งต่อสิ่งดีๆ ถึงทุกคนว่า ในวันแห่งความรักอยากให้ทุกคนรักกันทุกวัน อยากให้แสดงน้ำใจทั้งกับตัวเองและคนรอบข้างในทุกวัน เพราะความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม การที่คุณได้รับความรัก สามารถส่งต่อสิ่งดีๆ เหล่านั้นให้กับคนอื่นต่อๆ ไปได้เหมือน โดมิโน่ ส่งต่อความรักซึ่งกันและกันจนกระจายไปทั่วทุกที่เลย”