ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ตอนที่ 1

บทสัมภาษณ์ : คุณฐิติพร ประวัติศรีชัย พิธีกรรายการ #เคียงบ่าเคียงไหล่

           คุณฐิติพร ประวัติศรีชัย กล่าวแนะนำตัวว่า ชื่อเล่นมายด์ เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ใช้วีลแชร์ สาเหตุความพิการต้องย้อนไปประมาณ 9 ปีที่แล้วยังเดินได้ แต่ด้วยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลให้สูญเสียขาทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนแปลงไป จากการทำงานก่อนหน้านี้เป็นผู้จัดการศิลปิน ทำอีเว้นท์ ต้องมีการเปลี่ยนแนวทางในการทำงานมาใช้วีลแชร์ในการทำงาน ปัจจุบันสามารถปรับตัวได้ค่อนข้าง 100% มีความสุขในทุกๆ วัน ส่วนปัญหาในชีวิตนั้นมองว่าทุกๆ คนล้วนต้องพบเจอ  แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้รู้จักคนรอบตัวมากขึ้น เข้าใจกันและกันมากขึ้น สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่แต่ทำให้เห็นแง่มุมอะไรดีๆ ถ้าสมมุติเราเป็นคนที่ไม่พิการอาจจะไม่เคยรับรู้หรือไม่สัมผัสได้ถึงความห่วงใย ความเอาใจใส่ คือพอเป็นแบบนี้รับรู้แล้วว่าโอเค เขาต้องการความช่วยเหลือ มีความจำเป็นพิเศษบางอย่างที่อาจจะทำด้วยตัวเองไม่ได้ และเรื่องเหล่านี้ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ประทับใจเกิดขึ้นหลายๆ ครั้ง ไม่ว่าจะกับคนในครอบครัว จากเพื่อน หรือแม้แต่คนที่เราไม่รู้จัก ที่เราไปพบเจอในที่สาธารณะ ยกตัวอย่างจากคนในครอบครัว ก่อนที่จะมีความพิการเราทำงานส่งเงินให้ที่บ้าน พอเราเป็นคนพิการเกิดความกังวล คนเคยทำงานได้ ส่งเงินให้ที่บ้านได้ รู้สึกภาคภูมิใจในการที่เป็นคนหนึ่งที่ไม่ต้องให้เขาดูแล เราเป็นคนดูแลที่บ้าน แต่พอเกิดอุบัติเหตุขึ้น คำที่ได้รับจากที่บ้านคำแรก คือ “ไม่เป็นไรนะไม่ต้องกังวลเดี๋ยวเราจะดูแลเอง” เป็นความรู้สึกที่เขาไม่ได้มองว่า เราจะเป็นภาระ แต่เขามองว่าไม่เป็นไรเขาดูแลได้ เขาดูแลเราต่อไปได้ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่า เรื่องของความรักเป็นรักที่บริสุทธิ์มาก ในส่วนเพื่อนๆ จากปกติที่เราเดินได้ ทำทุกอย่างได้เหมือนเพื่อน แต่พอเราทำไม่ได้ เรามีความกังวลว่า ถ้าเพื่อนไปเที่ยวกันเราคงไม่ถูกชวนมั้ง แต่เมื่อเวลาที่เพื่อนไปเที่ยวเราก็ได้รับการชักชวนจากเพื่อนเช่นเดิม  
          ในช่วงแรกๆ เป็นช่วงของความสับสน ในที่นี้ไม่ได้สับสนว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไร แต่เป็นความสับสนว่า เอ๊ะ! เราจะยังไง ทำงานอะไร สับสนในเรื่องของการที่จะใช้ชีวิตต่อไปยังไงให้ตัวเองรู้สึกว่าเป็นปกติสุขที่สุด คือตัวของมายด์ ถูกตัดขาไป ๑ ข้าง มีเรื่องของการใช้วีลแชร์หรือขาเทียมเข้ามาเป็นทางเลือก ซึ่งได้ทดลองในการสวมขาเทียมเพื่อเดินให้ได้เหมือนเดิม ทุกคนทักว่า มายด์มีขาอีกข้างที่ปกติทำไมไม่ใช้ขาเทียม เขาเดินกันได้เยอะแยะไป แต่ส่วนตัวได้ทดลองแล้วทำให้รู้สึกว่าทำไมชีวิตช้าจัง ทำไมถือของมากๆ ไม่ได้ ถ้าฉันเจอทางลาดหรือทางที่ลื่น ฉันมีโอกาสที่จะหกล้ม จึงตัดสินใจว่าไม่เป็นไรขาเทียมมีไว้ได้แต่ทุกวันนี้ฉันมีความสุขในการที่ฉันจะใช้วีลแชร์ คันนี้ใช้มาประมาณ 9 ปีแล้ว คงไม่ได้เปลี่ยนเพราะว่าเหมือนเป็นขาของเราไปแล้ว
          ตอนแรกทำงานในมาตรา 35 อยู่ 6 ปี ร่วมกับเครือข่ายศิลปะดนตรีคนพิการ ในระหว่างนั้นได้รับโอกาสจาก ดร.สุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ ชวนมาเป็นพิธีกรรายการวิทยุ ชื่อรายการ 77 เดซิเบล ทำได้ประมาณครึ่งปี คุณภาณุมาศ สุขอัมพร ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ในขณะนั้น) ชวนให้มาเป็นพิธีกรรายการ เคียงบ่าเคียงไหล่ ตอนนั้นตื่นเต้นมากคิดว่าจะทำได้หรือไม่เพราะเป็นคนทำงานเบื้องหลัง จากวันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้ นอกเหนือจากการเป็นพิธีกร เป็นผู้จัดการวงดนตรี ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนโดยสถานทูตสหรัฐอเมริกา ช่วงสิ้นปีนี้จะไปทำโปรเจคใหญ่ที่สหรัฐอเมริกา
          รู้จักกันจากที่มายด์เป็นสายเที่ยว เป็นคนที่เที่ยวคนเดียว เมื่อก่อนเรียกได้ว่า ชวนเพื่อนแล้วเพื่อนไม่ไป ก็ไม่มีปัญหาฉันไปเองได้ ฉันไปคนเดียว ทำให้ได้เจอกับเขาซึ่งอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตในฐานะสมาชิกวงดนตรีที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ตอนนั้นอยู่เชียงใหม่ยังไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ เวลามีเทศกาลดนตรีจะมีรายละเอียดงานคอนเสิร์ต เป็นคนที่เข้าไปหลังเวทีได้ สามารถถ่ายรูปกับศิลปินได้ เขาอยู่ตรงนั้นและเราก็ไปถ่ายรูปกับเขาแล้วรู้สึกสงสัยว่าคนนี้เป็นชาวต่างชาติ แล้วเจอกันบ่อยขึ้นความประทับใจเกิดขึ้นคือ มายด์ตกบันไดที่พักที่เชียงใหม่ แล้วไปเที่ยวถึงแม้จะใส่เฝือกแต่ก็ไปเที่ยวได้ โดยการถอดเฝือกด้วยตัวเองโดยการทุบ หมอน่าจะดุอย่างแน่นอน มายด์โพสต์ทุกอย่างลง Facebook แล้วเขาเป็นเพื่อนใน Facebook ณ วันนั้นตอนที่วงเขายังไม่เล่น เขาออกมาเจอแล้วพาเดินแบบคอยระวังในการเดินของเราในงานคอนเสิร์ต ทำให้มายด์มีความประทับใจที่ดีต่อเขา หลังจากนั้นมีโอกาสทำความรู้จักกันมากขึ้นทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาจนถึงทุกวันนี้ที่เป็นคู่ชีวิตซึ่งกันและกัน
          ประทับใจที่เขารักและอยู่กับมายด์เสมอ มายด์ไม่จำเป็นต้องโกหกตัวเองเพื่อให้เป็นบุคลิกแบบนั้น บุคลิกแบบนี้เพื่อให้เขาประทับใจ การที่มายด์เป็นตัวของตัวเองแล้วมีคนรักได้ มายด์มองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพราะว่าถ้าเราโกหกกันตั้งแต่วันแรก ไม่มีทางที่เราจะอยู่กันได้ตลอดไป การโกหกมันไม่ยืนยาว การโกหกต้องมีวันที่เราหลุดออกเป็นตัวตนของตัวเองขึ้นมา เริ่มต้นมายด์เป็นยังไงทุกวันนี้เขาอยู่เคียงข้างเสมอและเขาไม่เคยบอกเลยว่าเธอเปลี่ยนไปนะ ประโยคนี้มันเป็นประโยคที่น่ากลัว เพราะถ้าประโยคนี้ถูกพูดขึ้นมาเมื่อไหร่ หมายความว่าเขารู้สึกแล้วว่าเราไม่เหมือนเดิมและความรู้สึกเขาก็จะไม่เหมือนเดิมกับเราด้วย มายด์มองว่าการที่เขารักที่มายด์เป็นตัวมายด์นี่แหละคือสิ่งที่พิเศษที่สุด

 

... สามารถติดตามรับฟังรายการรวมใจเป็นหนึ่ง ได้ทางสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz หรือ www.moeradiothai.net

 

รายการรวมใจเป็นหนึ่ง ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ เวลา 11.30 - 12.00 น. ทางสถานีวิทยุศึกษา FM 92 MHz ออกอากาศ : วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 รายการรวมใจเป็นหนึ่ง

ภาพประกอบรายการวิทยุรวมใจเป็นหนึ่ง

แบบประเมินคุณภาพสื่อ สสพ.

คุณพอใจกับคุณภาพสื่อข้างต้นมากน้อยเพียงใด
  • พอใจมาก0
  • พอใจ0
  • ปานกลาง0
  • ไม่พอใจ0
  • ไม่พอใจมาก0
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก