ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ว.การอาชีพพุทธมณฑล ยกระดับผู้เรียนผู้พิการ “ทวิภาคีแบบเรียนรวม”

วันที่ลงข่าว: 09/05/22

         นางณชนกพรหมพร บุญชูศรี ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการจัดการศึกษาทวิภาคีแบบเรียนรวม ร่วมกับผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษา สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อยกระดับความร่วมมือในการจัดการเรียนการสอนในระดับอาชีวศึกษาให้กับผู้เรียนผู้พิการ โดยเฉพาะผู้มีความบกพร่องทางการได้ยิน และได้ลงนาม MOU ร่วมกับนายอภิรัฐ จันทรักษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา และนางนวพร รอดคุ้ม ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อจัดการเรียนการสอนร่วมกันและส่งต่อผู้เรียนผู้พิการได้มีโอกาสเรียนต่อในสายอาชีพอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแผนงานโครงการที่จะลงนาม MOU ร่วมกับโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดชลบุรี โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครศรีธรรมราชและโรงเรียนโสตศึกษาทั่วประเทศในโอกาสต่อไป

         พร้อมกันนี้ นางณชนกพรหมพร บุญชูศรี ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามข้อมูลของนักศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)ที่รับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง (กสศ.) ในปี 2564 และพิจารณาผู้ที่จะรับทุนประจำปี 2565  โดยได้ประชุมร่วมกับผู้ปกครอง ผู้บริหาร และครูผู้สอนของโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา และ โรเรียนโสตศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้เรียนผู้พิการที่มีความต้องการที่จะเรียนต่อในสายอาชีพ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์และมีความต้องการพิเศษเนื่องจากความพิการ อีกทั้งและยังได้หารือกับผู้ปกครองในเรื่องพฤติกรรมทางการเรียน พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการชี้แจงเรื่อง การใช้ชีวิตในหอพักนักศึกษาพิการ ของวิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล

         ปัจจุบัน วิทยาลัยการอาชีพพุทธมณฑล มีนักศึกษาผู้พิการ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) จำนวน 62 คน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี  โดยเรียนในสาขาวิชาต่างๆ ดังนี้ สาขาวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง สาขาวิชาดิจิทัลกราฟิก สาขาวิชาการโรงแรม และสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งผู้เรียนผู้พิการส่วนใหญ่เป็นผู้พิการที่ความบกพร่องทางการได้ยิน  ทั้งนี้วิทยาลัยฯ ได้การจัดเรียนการสอนทวิภาคีแบบเรียนรวม คือการเรียนรวมกันระหว่างนักศึกษาพิการและนักศึกษาปกติ เรียนวิชาชีพในวิทยาลัย 1 ปี และฝึกอาชีพในสถานประกอบอีก 1 ปี และเน้นให้จัดการเรียนการสอนที่เป็นการเรียนปฏิบัติ เพราะการปฏิบัติ จะช่วยเพิ่มพูนทักษะและความชำนาญในสาขาวิชาชีพ และมีความสอดคล้องต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนพิการ เพื่อให้ผู้เรียนพิการมีทักษะฝีมือที่ดีก่อนเข้าฝึกอาชีพในสถานประกอบการ และเข้าสู่ตลาดแรงงาน สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อไป

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก