ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคสตูล เปิด “ศูนย์ซ่อมอุ่นใจจังหวัดสตูล” รับบริการซ่อมบำรุงอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ เตียงผู้ป่วย และอุปกรณ์พิเศษสำหรับผู้ป่วย/ผู้พิการเฉพาะบุคคล

วันที่ลงข่าว: 29/05/24

          วันที่ 27 พ.ค.67 นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และดร.ปรีชา เวชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านมาตรฐานอาชีวศึกษาเกษตรกรรมและประมง สำนักงานคณะกรรมการอาชีวะศึกษา ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด “ศูนย์ซ่อมอุ่นใจจังหวัดสตูล” ที่วิทยาลัยเทคนิคสตูล อำเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยนายแพทย์วีระพันธ์ ลีธนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 12 สงขลา, นายธานิตต์ ชูเซ่ง ผู้จัดการศูนย์บริการและอะไหล่ บริษัทพิธานพาณิชย์ จำกัด สาขาสตูล และภาคีเครือข่ายกว่า 10 องค์กรร่วมกิจกรรม

          นายวิเชียร บุญเตี่ยว ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสตูล กล่าวว่า สืบเนื่องจากการจัดกิจกรรมร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดสตูล จึงได้มีโอกาสรับทราบถึงปัญหาของผู้พิการและผู้ดูแลผู้พิการ ซึ่งประสบปัญหาเดียวกันหลังได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการไปแล้ว เช่น รถนั่งคนพิการ, รถสามล้อโยก, ไม้ค้ำยัน, ไม้เท้าอลูมิเนียมสี่ขา, เตียงนอนผู้ป่วย, ที่นอนลม มีสภาพชำรุด เก่าจากการใช้งานมานาน แต่ไม่มีอะไหล่ทดแทนหรือมีแต่ราคาสูง หรือผู้ดูแลผู้พิการซ่อมแซมเอง แต่ยังขาดความรู้ในการซ่อมบำรุง จึงริเริ่มโครงการ Up Skill,Re Skill ซ่อมแซมอุปกรณ์ช่วยความพิการ เตียงผู้ป่วย หรืออุปกรณ์พิเศษสำหรับผู้ป่วย/ผู้พิการเฉพาะบุคคล ให้สามารถกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ดูแลผู้พิการ 

          จากนั้นกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดสตูล โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล มีแนวคิดริเริ่มการจัดตั้ง “ศูนย์ซ่อมอุ่นใจจังหวัดสตูล” เพื่อเปิดรับซ่อมแซมอุปกรณ์ช่วยเหลือความพิการ และอุปกรณ์พิเศษฯ ในจังหวัดสตูล โดยเปิดให้บริการสาขาวิทยาลัยเทคนิคสตูล สำหรับดูแลอำเภอเมือง อำเภอควนโดน อำเภอควนกาหลง 

          ในโอกาสนี้ ได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในการจัดตั้ง “ศูนย์ซ่อมอุ่นใจจังหวัดสตูล” อย่างเป็นทางการ พร้อมมอบเกียรติบัตรให้แก่ภาคีเครือข่ายกว่า 10 องค์กร ก่อนเปิดป้าย “ศูนย์ซ่อมอุ่นใจจังหวัดสตูล” อย่างเป็นทางการ ทั้งนี้กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพจังหวัดสตูล ได้สนับสนุนงบประมาณให้วิทยาลัยเทคนิคสตูล จำนวน 254,940 บาท อีกด้วย

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก