ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานร่วมกับประเทศญี่ปุ่นแก้ปัญหาสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย เน้นส่งเสริมการจ้างงานในสถานประกอบการอย่างต่อเนื่อง

วันที่ลงข่าว: 19/09/16

พลเอกศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดงานการสัมมนาความร่วมมือญี่ปุ่น - ไทย เรื่อง การจ้างงานผู้สูงอายุ (Japan - Thailand Collaboration Seminar for the Elderly Employment) ว่า การสัมมนาในครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้น เพื่อนำไปสู่การพัฒนากลไกการดูแลผู้สูงอายุและปรับปรุงกฎหมายจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการสร้างการเข้าถึงสวัสดิการต่างๆ อย่างเท่าเทียม เนื่องจากประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็วและถือเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชีย รองจากประเทศสิงคโปร์ พร้อมมองว่าผู้สูงอายุควรได้รับการดูแลคุ้มครอง และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดช่วงวัย เพื่อให้มีส่วนร่วมในการดูแลตนเองได้ ทั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม โดยเฉพาะภาคเอกชนที่จะส่งเสริมการจ้างงานให้ผู้สูงอายุและผู้พิการ ได้มีงานทำ มีรายได้ มีสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เหมาะสม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล และเป็นไปตามแผนงานของนายกรัฐมนตรีที่ได้มอบหมายไว้

ด้านนายชิโร ชาโดชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมีผู้สูงอายุถึงร้อยละ 26.7 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งทำให้ประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหามากมาย แต่ญี่ปุ่นได้มีการเตรียมการอย่างต่อเนื่องจนสามารถกำหนดมาตรการดูแลผู้สูงอายุได้ดีและเป็นที่ยอมรับ ปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นได้มีการปรับการเกษียณอายุจาก 60 ปี เป็น 65 ปี และขยายเวลาการรับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ทั้งนี้ไทยยังไม่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ ไทยควรมีการเตรียมการและมีการจ้างงานผู้สูงอายุมากขึ้น โดยการขยายอายุเกษียณให้เพิ่มขึ้น รวมถึงกำหนดให้มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะทำให้ประเทศไทยรับมือกับผลกระทบได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามหากมีอัตราการเกิดน้อยลง ควรพัฒนาแรงงานที่มีในระบบให้มีศักยภาพมากขึ้น เพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมได้ในระดับหนึ่ง

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก