ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

คณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการพิจารณาผู้ประกันตนขอเป็นผู้ทุพพลภาพ พร้อมเน้นการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง

วันที่ลงข่าว: 27/01/17

      คณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการพิจารณาผู้ประกันตนขอเป็นผู้ทุพพลภาพ พร้อมเน้นการดูแลสุขภาพอย่างยั่งยืนและการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง     ที่ห้องประชุม ชั้น 4 สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ ถนนเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นายสยาม ศิริมงคล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ ครั้งที่ 1/2560 โดยมีคณะอนุกรรมการประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ ผู้แทนนายจ้าง ผู้แทนลูกจ้าง และนางสาวเกตุธริน ไชยศรี ประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการเป็นเลขานุการ ซึ่งก่อนการประชุมได้มีการร่วมแสดงความยินดี ที่นางเพลินจิต ชรารินทร์ หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ สาขาบางพลี เลื่อนตำแหน่งและย้ายไปดำรงตำแหน่ง ประกันสังคมจังหวัดสุโขทัย จากนั้นที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและมีมติเห็นชอบในการพิจารณาผู้ประกันตนขอเป็นผู้ทุพพลภาพ จำนวน 5 ราย เป็นชาย 4 ราย หญิง 1 ราย อยู่ในเขตอำเภอเมือง ฯ 5 ราย จากสาเหตุการเจ็บป่วย 5 ราย โดยคณะอนุกรรมการส่วนใหญ่มีความเห็นว่า ผู้ประกันตนเดิมมีร่างกายปกติ แต่ต่อมามีอาการเจ็บป่วยจากโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน เส้นเลือดในสมองตีบ ปวดศีรษะรุนแรง โรคหัวใจโต เป็นต้น แล้วมีอาการรุนแรงจนกลายเป็นโรคอัมพาต โรคอัมพฤกษ์และคนพิการในที่สุด ซึ่งโรคต่าง ๆ ดังกล่าว เกิดจากการไม่ออกกำลังกาย ไม่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และไม่ดูแลสุขภาพร่างกายเท่าที่ควร ซึ่งที่ประชุมขอให้ผู้ประกอบการเน้นการป้องกันสร้างการตระหนักแก่นายจ้างและลูกจ้าง เช่น การหันมาใส่ใจสุขภาพ โดยการออกกำลังกาย การตรวจสุขภาพประจำปี เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดอัตราการเจ็บป่วยที่รุนแรงให้ลดน้อยลงและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีของตนเองและครอบครัวอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการตรวจสุขภาพประจำปี เป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลสุขภาพให้มีความพร้อมในการทำงานและดำรงชีวิต พร้อมกันนี้ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกับสถานพยาบาลและคลินิกทันตกรรมในจังหวัดสมุทรปราการ 29 แห่ง ดำเนินโครงการทำฟันโดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย เช่น การถอนฟัน ผ่าฟันคุด อุดฟันและขูดหินปูน ได้ปีละ 900 บาท หากมีปัญหาสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1506 ตลอด 24 ชั่

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก