ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ผู้พิการในจังหวัดสตูล กว่า 1,000 คน ร่วมงาน “คนพิการใต้ร่มพระบารมี สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน” เนื่องในวันคนพิการสากล ประจำปี 2559

วันที่ลงข่าว: 09/02/17

       วันที่  8 ก.พ. 60 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในการเปิดงานวันคนพิการสากลจังหวัดสตูล ประจำปี 2559 ซึ่งสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล ร่วมกับศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสตูล สภาคนพิการทุกประเภทจังหวัดสตูล และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้น ตามที่องค์กรการสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคนพิการสากล
       เพื่อเปิดพื้นที่ทั้งในการเข้าร่วมกิจกรรม การแสดงความสามารถตามศักยภาพ การรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์ สิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับ และการรับบริการทางสังคม ซึ่งจะส่งผลให้ได้รับโอกาสทางสังคมเท่าเทียมกับคนทั่วไป ทั้งนี้ ทางจังหวัดสตูลได้มอบเกียรติบัตรแก่คนพิการตัวอย่าง จำนวน 5 ราย ศูนย์บริการคนพิการทั่วไปดีเด่น 3 ศูนย์ องค์กรคนพิการดีเด่น 2 องค์กร และหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดงาน พร้อมมอบเงินทุนกู้ยืมเพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพแก่คนพิการและผู้ดูแล 35 ราย รวมเป็นเงิน 1,490,000 บาท และมอบเงินอุดหนุนปรับสภาพที่อยู่อาศัยทั่วไปสำหรับคนพิการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 4 หลังๆ ละ 20,000 บาท โดยวันนี้มีผู้พิการ ผู้ดูแล อาสาสมัคร กลุ่มชมรม องค์กร และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรม กว่า 1,000 คน
       นายภัทรพนธ์ รัตนพิเชฏฐชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า จังหวัดสตูล เปรียบเสมือนตัวแทนของรัฐบาล ในการส่งมอบความห่วงใยไปสู่ประชาชนทุกคน รวมถึงผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ เพราะมีเกียรติศักดิ์ศรีและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันปกป้องรักษาชาติบ้านเมือง ซึ่งการจัดกิจกรรมวันนี้ ได้น้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่คณะกรรมการมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ในพระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2517 ความตอนหนึ่งว่า “งานช่วยเหลือคนพิการนี้ ก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าผู้พิการไม่ได้อยากจะเป็นผู้พิการ และอยากช่วยเหลือตนเอง ถ้าเราไม่ช่วยเขาให้สามารถที่ปฏิบัติงานอะไรเพื่อชีวิต และเศรษฐกิจของครอบครัวจะทำให้เกิดสิ่งที่หนักในครอบครัวหนักแก่ส่วนรวม ฉะนั้น นโยบายที่จะทำก็คือ ช่วยเขาให้ช่วยเหลือตนเองได้ เพื่อจะทำให้เขาสามารถเป็นประโยชน์ต่อสังคม”
 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก