ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ศธ. และ ก.วิทยาศาสตร์ฯ ร่วมเสนอที่ประชุม ครม.สัญจร เห็นชอบในหลักการให้ทั้ง 2 กระทรวง บูรณาการร่วมกันขับเคลื่อนแผนแม่บทพัฒนาอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จ.ประจวบฯ สู่แหล่งเรียนรู้ชั้นนำระดับอาเซียน

วันที่ลงข่าว: 05/03/18

            กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมเสนอที่ประชุม ครม.สัญจร เห็นชอบในหลักการให้ทั้ง 2 กระทรวง บูรณาการร่วมกันในการขับเคลื่อนแผนแม่บทพัฒนาอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัดประจวบฯ สู่แหล่งเรียนรู้ชั้นนำระดับอาเซียน

          นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในโอกาสเดินทางมาตรวจติดตามการเตรียมพร้อมจัดงานครบรอบ 150 ปี สุริยุปราคา ณ หว้ากอ เทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ รวมทั้งติดตามแนวทางการจัดทำแผนแม่บทฉบับใหม่เพื่อพัฒนาอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ รัฐมนตรีทั้ง 2 กระทรวง ยืนยันว่าจะไม่มีการถ่ายโอนภารกิจของอุทยานฯ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในสังกัดสำนักงาน กศน. กระทรวงศึกษาธิการ ให้ไปอยู่ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ แต่จะร่วมกันสนับสนุนบุคลากรและงบประมาณเพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ที่มีความทันสมัยในระดับอาเซียน เบื้องต้นจะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ที่ จ.เพชรบุรี พิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการวันที่ 6 มีนาคมนี้ เพื่อให้ทั้ง 2 กระทรวง สามารถบูรณาการการทำงานและงบประมาณเพื่อพัฒนาอุทยานฯ ร่วมกันได้

          สำหรับการจัดทำแผนแม่บทหรือมาสเตอร์แพลนการพัฒนาอุทยานฯ หว้ากอ จะมีการขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการซึ่งมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน และมีปลัดกระทรวงวิทย์ฯ เป็นรองประธาน กำหนดแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยมีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อีกหน่วยงานหนึ่งเข้ามาร่วมด้วยในการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเชื่อมโยงกับการก่อสร้างโครงการ "ริเวียร่า" หรือการสร้างเส้นทางสายหลักเลียบชายทะเลจากภาคกลางไปจังหวัดภาคใต้

          ทั้งนี้ การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานในปีงบประมาณ 2561 กระทรวงคมนาคมจะเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟทางคู่ผ่านอุทยานฯ นอกจากนั้นจังหวัดได้ร่วมกับกรมทางหลวงชนบท จัดทำแผนเชื่อมเส้นทางด้วยถนน 4 เลนจากอุทยานหว้ากอ ไปจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรชายแดนไทย-เมียนมา ปัจจุบันจังหวัดได้รับงบประมาณในการพัฒนาด่านสิงขรกว่า 400 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดด่านชายแดน โดยอุทยานฯ หว้ากอมีระยะทางห่างจากตัวเมืองประจวบเพียง 8 กิโลเมตร จะมีการพัฒนาเส้นทางให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเส้นทางที่เชื่อมกับถนนเพชรเกษมทางหลวงสายหลักเชื่อมภาคกลางกับภาคใต้

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก