นายศุภพงษ์ เชาวน์แล่น ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอนุชา นาคาศัย ในฐานะประธานกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค มีสารเนื่องในวันคุ้มครองผู้บริโภคไทย พ.ศ.2564 วันที่ 30 เมษายน 2564 มีใจความว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ได้มีการประกาศใช้เพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนให้ได้รับความเป็นธรรมและปลอดภัย จากการซื้อสินค้าหรือบริการ มาเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว นับตั้งแต่วันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในวันที่ 30 เมษายน 2522 จึงได้ถือให้วันที่ 30 เมษายน ของทุกปีเป็น "วันคุ้มครองผู้บริโภค"

            คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน ถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลที่จะต้องดูแลและจัดการให้ดำเนินไปอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาที่สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ส่งผลให้ภาคธุรกิจและภาคประชาชนต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) การบริโภคสินค้าหรือบริการได้มีการนำเทคโนโลยีทางการสื่อสารมาใช้ในการเสนอซื้อขายผ่านออนไลน์ในอัตราที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคได้รับความสะดวกและเข้าถึงง่าย แต่กลับมีผู้ประกอบการบางรายที่ไม่สุจริตใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อการเอาเปรียบ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก ผู้ประกอบการบางรายได้นำนวัตกรรมเหล่านี้ไปสร้างเงื่อนไขหลอกลวงเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของเยาวชน ผู้สูงอายุที่อยู่กับบ้าน ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส

            สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค เป้าหมายหลักคือสร้างสังคมการบริโภคให้มีความสุข ให้มีความยุติธรรม พัฒนาการบริโภคให้เกิดความเป็นธรรมโดยส่งเสริมสนับสนุนและกำกับดูแลให้มีการซื้อขายสินค้าหรือบริการที่ถูกต้องเป็นธรรม และอำนวยความสะดวกในกรณีผู้บริโภคใช้สิทธิร้องเรียนเพื่อให้ได้รับการแก้ไข เยียวยา ชดเชยความเสียหาย รวมทั้งสร้างการรับรู้และความตระหนักในสิทธิผู้บริโภค ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สคบ. ได้กำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน การบังคับใช้กฎหมาย โดยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับปรุง พัฒนาช่องทางการสื่อสารและการให้บริการ การเผยแพร่ข้อมูลความรู้ การบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค การสนับสนุนความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายผู้บริโภคจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคการศึกษา ซึ่งได้รับการตอบสนองอย่างดีจากพี่น้องประชาชน โรงเรียน สถานศึกษา และมหาวิทยาลัยต่างๆ และกระจายไปสู่องค์กรภาคประชาชนในส่วนภูมิภาค ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยจากการบริโภคสินค้าหรือบริการ และสามารถแก้ไขปัญหาของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์

            ในโอกาสวันคุ้มครองผู้บริโภคไทย 2564 นี้  ขอให้ประชาชนทุกท่าน ที่ล้วนอยู่ในฐานะผู้บริโภคแสดงความเป็นผู้บริโภคที่มีคุณภาพ โดยใช้ความรอบคอบในการเลือกใช้สินค้าหรือบริการ เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิของตนเองในเบื้องต้น รับฟังข่าวสารความรู้ที่ถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐ ตระหนักและตื่นตัวในสิทธิของตน และร่วมกันแสดงพลังผู้บริโภคที่เข้มแข็ง ในขณะเดียวกันขอให้ผู้ประกอบธุรกิจได้ประกอบธุรกิจอย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและสังคมที่ยุติธรรมอย่างยั่งยืนๆ ตลอดไป