นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดขับเคลื่อนโครงการ ”เมืองต้นแบบการจัดสวัสดิการทุกช่วงวัย”
วันที่ 25 พ.ค. 67 เวลา 09.30 น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ตรวจติดตามการขับเคลื่อนกิจกรรมโครงการ “เมืองต้นแบบการจัดสวัสดิการทุกช่วงวัย” ณ ศูนย์บริการและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ชุมชนตลาดเทศบาลวัดสระทอง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีนายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้บริหารในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 จ.ร้อยเอ็ด ผู้บริหารและพนักงานเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด และประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ
นายวราวุธ ศิลปอาชา กล่าวว่า ในอนาคตที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับจำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น และวิกฤตเด็กเกิดน้อย ในขณะเดียวกัน เด็กที่เกิดมาอยู่ในครอบครัวที่ไม่พร้อมที่จะดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการกำหนดนโยบายที่ต้องพิจารณาถึงครอบครัวของเด็กในการเลี้ยงดูเด็กให้มีประสิทธิภาพ กลไกของรัฐหรือกลไกของสังคมที่ต้องเข้ามาดูแลมากขึ้น เพื่อให้การเกิดอย่างมีคุณภาพ จึงมีโครงการเมืองต้นแบบการจัดสวัสดิการทุกช่วงวัย นี้ขึ้นมา และยังมีแนวงคิดที่จะเพิ่มประสิทธิภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีอยู่ อาจจะขยายการเริ่มรับเลี้ยงเด็กตั้งแต่อายุ 3 เดือน เพราะผู้ใช้แรงงานนั้นมีสวัสดิการที่สามารถลาคลอดบุตรได้เพียง 3 เดือน เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้มีบุตรมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตเด็กเกิดน้อยอีกด้วย
ภายในงาน นายวราวุธ ได้มอบเกียรติบัตรขอบคุณกลุ่มผู้แทนตำหน่าย ปตท. จากโตรงการ “แนก แลก ยิ้ม” มอบเงินสนับสนุนการปรับปรุงซ่อมแซมที่พักอาศัย จำนวน 30 ครัวเรือน มอบเงินอุดหนุนช่วยเหลือสตรีหรือครอบครัวที่มีปัญหาทางสังคม 65 ราย มอบถุงยังชีพครัวเรือนเปราะบาง 200 ชุด มอบกายอุปกรณ์สำหรับผู้พิการ รวม 20 ราย และมอบหนังสือนิทานอักษรเบลล์สำหรับเด็กพิการทางสายตา 10 คน พบปะกับประชาชนที่มาร่วมงาน จากนั้นเยี่ยมชมบูทนิทรรศการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มคนทุกช่วงวัย โดยได้ร่วมแสดงดนตรีกับกลุ่มของผู้มีบัตรแสดงความสามารถอีกด้วย
สำหรับสถานการณ์โครงสร้างประชากรของจังหวัดร้อยเอ็ด มีอัตราการเกิด และจำนวน ประชากรในวัยแรงงานลดลง แต่จำนวนผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนผู้สูงอายุ 254,864 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด จากสถานการณ์ดังกล่าว จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อน มาตรการต่าง ๆ เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เช่น การพัฒนาศักยภาพ และส่งเสริมการเรียนรู้ผู้สูงอายุในชุมชน การเสริมพลังคลังปัญญาเพื่อคนทุกวัย การส่งเสริมการมีงานทำของผู้สูงอายุ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการ พัฒนาคนทุกช่วงวัย เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิและสวัสดิการจากรัฐที่เหมาะสม อย่างทั่วถึง